Thai | English
  Health & Care
เปิดใจคุณพ่อผู้บริหาร...

เปิดใจคุณพ่อผู้บริหาร..."ยังไม่สายที่จะให้เวลากับลูก"

       ในสังคมทุกวันนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า ความอยู่รอดของครอบครัว เป็นเรื่องไม่ง่ายเหมือนเมื่อก่อน เพราะต้องเผชิญกับภาวะการแข่งขัน และความกดดันหลายๆ ด้าน ทำให้พ่อแม่หลายคน ต่างต้องออกแสวงหา และต่อสู้เพื่อความมั่นคงของครอบครัว
   บนความรับผิดชอบนี้ ทำให้หลายคนแทบไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับลูกเลย เหมือนกับ "วิโรจน์ สิริวัฒนะกมล" ผู้ดำเนินการโรงเรียนนานาชาติ Tinity คุณพ่อลูกสองของน้องอัลฟา (13 ปี) และเบต้า (11 ขวบ) ที่เมื่อก่อนงานยุ่งจนไม่มีเวลาอยู่กับลูกแต่พอถึงวันหนึ่งที่ลูกชายมี พฤติกรรมเปลี่ยนไป เขาจึงเริ่มฉุกคิด และกลับมาให้คุณค่ากับลูกมากขึ้น
       
       "ก่อน หน้านี้ ผมทำงานด้านการเงินการธนาคาร และตลาดหลักทรัพย์ ตอนนั้นงานเยอะมาก ทำงาน 9 โมงเช้า ถึง 4 ทุ่ม เป็นแบบนี้ทุกวัน มีช่วงวันว่างก็เฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์เท่านั้น ทำให้กิจกรรมกับครอบครัวจึงแทบไม่มีเลย" คุณวิโรจน์เล่าถึงอดีต
       
       กระทั่ง วันหนึ่งลูกชายวัย 5 ขวบ เริ่มมีพฤติกรรมผิดปกติ เช่น คุยด้วยแต่ไม่สบตา มีโลกส่วนตัวสูง ไม่รู้ว่าสิ่งไหนอันตรายหรือไม่อันตราย จึงพาไปหาคุณหมอ ปรากฏว่า ลูกเป็นออทิสติกประเภทหนึ่งที่เรียกว่า "แอสเพอร์เกอร์"
       
       "ทันที ที่รู้ว่าลูกเป็นออทิสติก ทุกอย่างตอนนั้นเราอยากทำเพื่อลูกหมด จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ผมอยากเปิดโรงเรียนอนุบาลขึ้น โดยให้ภรรยาเป็นคนดูแล เพราะไม่อยากให้ลูกไปอยู่กับคนอื่น เนื่องจากเกรงว่าคนอื่นจะดูแลไม่เหมือนพ่อแม่ ซึ่งจากนั้นไม่นาน ผมก็ออกจากงานเดิม และมาช่วยภรรยาบริหารโรงเรียน"
       
       ยังไม่สายที่จะให้เวลากับ "ลูก"
       
       เมื่อ ปลดตัวเองออกจากงานที่รัดตัว แล้วมาช่วยภรรยาบริหารโรงเรียน คุณพ่อท่านนี้บอกว่า มันยังไม่สายไปซะทีเดียว เพราะจุดสำคัญคือช่วงวัยรุ่น ซึ่งการทำงานด้านบริหารโรงเรียน ถึงแม้งานจะยุ่งก็ยังพอมีเวลาให้ครอบครัว ต่างกับงานเดิม ที่กว่าจะหาวันว่างสักวัน ช่างแสนยากเย็นเหลือเกิน
       
       "ทุก วันนี้ ผมมีเวลาคุยกับลูก และสอนเขาได้มากขึ้น ทั้งในเรื่องคิดดี ทำดี ถ่อมตน ตรงเวลา รับผิดชอบ รวมไปถึงการให้อภัย ซึ่งผมว่ามันไม่ใช่ภาระ ถึงแม้บางทีลูกจะมีปัญหาบ้าง แต่ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว ต่างจากเมื่อก่อนที่จะเงียบ มีโลกส่วนตัวสูง เพราะผมเชื่อว่า ผมได้อยู่ และดูแลเขามากขึ้น" คุณพ่อวิโรจน์บอก
 
pic 088.jpg    "ดนตรี" พลังบำบัดที่มีอยู่จริง
       
       สำหรับ บ้านหลังนี้ ดนตรีถือเป็นกิจกรรมวันว่าง และกิจกรรมเสริมของคนในครอบครัว เพราะเชื่อว่า พลังของดนตรีสามารถบำบัดลูกได้จริง จึงเป็นเหตุผลให้ลูกทั้ง 2 คน สัมผัสกับดนตรีตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าจะเปียโน หรือการร้องเพลง
       
       "ผม เชื่อว่า ดนตรี และเสียงเพลง เป็นตัวช่วยทำให้จิตใจของลูกสงบนิ่ง ช่วยให้สมองทำงานได้อย่างสมดุล ผมไม่ได้คาดหวังว่า ลูกจะต้องเป็นนักดนตรี นักร้อง เพียงแค่ใช้ดนตรีเป็นตัวเสริม และช่วยบำบัดลูกเท่านั้น โดยเฉพาะลูกชายผม ดนตรีช่วยได้เยอะมาก สิ่งหนึ่งเลยคือ ช่วยให้เขาได้ปลดปล่อยสิ่งที่อยู่ข้างในออกมา"
       
       อย่าง ไรก็ดี ถึงแม้ดนตรีจะไม่ได้มีบทบาทต่อครอบครัวนี้มากนัก แต่คุณพ่อท่านนี้ก็เชื่อเสมอว่า การที่คนในครอบครัวได้อยู่กับดนตรี เสียงเพลง ถือเป็นความอบอุ่น และความสุขเล็กๆ ที่มีร่วมกันได้ เช่น พ่อหยิบกีตาร์มาเล่นเพลง และให้ลูกๆ ช่วยกันร้อง ตรงนี้ มันเป็นความสุขที่ช่วยให้คนในครอบครัวมีความเน้นเฟ้นกันมากขึ้น
  แง่คิดสะกิดจี๊ด ถึงพ่อแม่ยุคใหม่
       
       อย่าง ไรก็ดี ในฐานะคุณพ่อที่เคยถูกภาระงานเบียดทับเวลาของคนในครอบครัว วันนี้เขาเห็นผลแล้วว่า ลูกคือคนที่ต้องให้คุณค่าทั้งความรัก และเวลามากที่สุด ดังนั้นจึงฝากไปถึงพ่อแม่วัยทำงานทุกคน ก่อนที่จะสายเกินไป ว่า แม้จะต้องทำงาน แต่ขอให้เห็นคุณค่าของลูกบ้าง ไม่ใช่ปล่อยให้ลูกอยู่กับโรงเรียน เพื่อน หรืออื่นสื่ออื่นๆ
       
       "ลูก สมัยใหม่เป็นลูกบังเกิดเกล้า หรือลูกเทวดากันไปหมด แตะไม่ได้เลย หรือพ่อแม่บางคน พอเห็นเด็กอีกคน ก็ชอบเปรียบเทียบ เกิดการแข่งขันกลายเป็นวันนี้ลูกฉันต้องมีโทรศัพท์รุ่นใหม่ มีของใหม่ๆ หรือบางคนไม่สนใจลูกเลยก็มี ขอให้มาเรียน ถึงเวลาก็จ่ายค่าเทอม ลูกได้คะแนนเท่าไรไม่เคยสนใจ เมื่อเป็นเช่นนี้ คุณภาพของเด็กจะอยู่ที่ไหน สิ่งที่ผมเจอในทุกวันนี้ โดยเฉพาะการรับบุคลากรเข้าทำงาน เด็กรุ่นใหม่ไม่ค่อยสู้งาน และทำงานไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร"
       
       ดัง นั้น คุณพ่อวิโรจน์ สะกิดใจพ่อแม่ผ่านทีมงานว่า สำหรับพ่อแม่ที่ไม่สนใจลูก สิ่งที่เลวร้ายที่สุดจะตกมาที่ลูก เพราะเมื่อไรที่ลูกมีครอบครัว เขาก็จะไม่เห็นคุณค่าของคนในครอบครัวเหมือนกับที่เขาได้รับจากพ่อแม่ ถ้าคุณไม่อยากเป็นผู้เริ่มต้นวัฏจักรที่ไม่ดี ถึงเวลาแล้วที่จะเห็นคุณค่าของลูก ก่อนที่วันข้างหน้า ลูกจะไม่เห็นคุณค่าของครอบครัว
       
       "ความ รักไม่ใช่แค่การหาเงิน หรือการให้เงินแล้วทุกคนจะมีความสุข แต่ต้องอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวที่มีความรัก ความเชื่อ และความไว้วางใจกันด้วย ไม่ใช่อยู่ภายใต้ความกดดัน หรือคำสั่งที่รัดแน่นจนอึดอัด" คุณพ่อวิโรจน์ฝากไว้เป็นแง่คิด
       
       //////////////////
       
       ข้อมูลประกอบข่าว
       
       แอสเพอร์เกอร์ คือ กลุ่มอาการที่เกิดจากความผิดปกติ ทางการทำงานของระบบประสาทที่จัดอยู่ในกลุ่มของโรคกลุ่มออทิสติค (Autistic spectrum disorders) ซึ่งเป็นกลุ่มอาการของโรคที่มีปัญหาทางด้านพฤติกรรม และพัฒนาการทางด้านการพูด เช่น โรคออทิสติค (Autism) และพฤติกรรมแปลกอื่นๆ ที่มีลักษณะคล้ายออทิสติค เด็กที่อยู่ในข่ายอาการดังกล่าว มักจะไม่ค่อยมีสีหน้าที่แสดงอารมณ์ต่างๆ เท่าไรนัก และมักจะมีปัญหาในการอ่านใจ และภาษาท่าทางของคนอื่นๆ ที่ตนเองสนทนาด้วย มักจะชอบทำอะไรซ้ำๆ หรือมีรายละเอียดในการปฏิบัติตนในชีวิตประจำวันที่เหมือนเดิมเสมอ
 
บทความจาก ASTVผู้จัดการออนไลน์ / life & family ฉบับวันที่ 17 กรกฎาคม 2553
Health & Care
- BPA คืออะไร
- เทคนิคการนวด
- ลูกจะเป็นอย่างไร ส่วนสำคัญขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของพี่ๆ
- 'กระดูกสันหลังคด' โรคที่อาจมากับ 'เด็กแรกเกิด'
- ขวดนมแบบไหน? ถึงจะโดนใจหนู
- เรื่องน่ารู้ของ
- ใช้
- ส่งลูกเข้าเรียน "วิถีพุทธ" ใครว่าเด็กจะล้าหลังคร่ำครึ!
- เมื่อลูกเป็น "โรค ภูมิแพ้"
- หนูอายจัง...ทำยังไงดี
View all

  Baby Product   Blog   About us   Address
  •   Athena Metis Co., Ltd.
  •   A M C (Thailand) Co., Ltd.
  •   50/41 Moo 13, Putthamonthon Sai 5
  •   Raikhing, Sampran,
  •   Nakornprathom 73210 Thailand
  •   Tel: +66 (0)2 019 9887
  •   Fax: +66 (0)2 019 9878
  •   E-mail: info@happybabito.com
HappyBabito Copyright 2010 Athena Metis Co., Ltd. All Rights Reserved. Babito is a trademark owned by Athena Metis Co., Ltd.
Engine by MAKEWEBEASY