|
สุขภาพ
|
|
ฟังวิธีรับมือ "เมื่อลูกแอดมิด" ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด!/Modernmom
|
|
ฟังวิธีรับมือ "เมื่อลูกแอดมิด" ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด!/Modernmom
แน่ นอนแล้วว่า สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่เป็นกังวลใจที่สุด สำหรับการดูแลเด็กเล็ก คงจะหนีไม่พ้นการที่ลูกน้อยเจ็บป่วยและต้องเข้าโรงพยาบาล เพราะนอกจากลูกจะต้องรับมือกับอาการป่วยไข้แล้ว ยังต้องปรับตัวให้เข้ากับพื้นที่ที่ไม่คุ้นชินอีกด้วย แล้วคุณพ่อคุณแม่จะช่วยลูกน้อยให้หายเร็วไวได้อย่างไรดี
สำหรับการแอดมิดสำหรับเด็กเล็กนั้น สามารถแบ่งได้เป็นสองอย่างด้วยกัน คือ การแอดมิดแบบฉุกเฉิน เมื่อลูกเกิดอาการป่วยไข้หรือเกิดอุบัติเหตุแบบกะทันหัน ซึ่งคุณพ่อคุณแม่มีเวลาเตรียมตัวได้น้อย และอีกแบบคือการแอดมิดที่คุณพ่อคุณแม่รับทราบอยู่แล้วระยะหนึ่ง ว่าลูกน้อยจะต้องเข้าไปนอนในโรงพยาบาลด้วยสาเหตุใดสาเหตุหนึ่ง
แต่ อย่างไรนั้น การแอดมิดทั้งสองแบบก็มีความจำเป็นมากที่คุณพ่อคุณแม่จะต้องเตรียมตัวเตรียม ใจให้กับตัวเองและลูก รวมถึงต้องเตรียมความพร้อมเมื่อรู้ว่าลูกจะต้องแอดมิดอีกด้วย เพราะเด็กๆ วัยเตาะแต่เป็นวัยที่ต้องการความไว้เนื้อเชื่อใจ ไม่ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้นเขาก็จะมุ่งหน้าโผไปหาคนที่เขารักและคุ้นเคยเสมอ และเมื่อเด็กๆ ต้องเข้าโรงพยาบาล สิ่งที่เกิดขึ้นแน่นอนคือ ความเจ็บปวดทางร่างกาย และความเครียดทางจิตใจ เมื่อต้องห่างจากคนที่เขาเชื่อใจ ซึ่งความเจ็บปวดนั้นเราอาจจะบรรเทาได้ไม่มาก เพราะขึ้นอยู่กับกระบวนการรักษาทางกาแพทย์ แต่ความกังวลและความเครียดของคุณพ่อคุณแม่สามารถจัดการได้ด้วยตัวเอง ดังต่อไปนี้
หาวิธีเพิ่มความคุ้นชินให้กับลูก
หลัก ใหญ่ๆ ที่สำคัญของการเพิ่มความคุ้นเคย คือการให้ลูกใช้เวลากับโรงพยาบาลบ้างก่อนที่จะมานอน คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้ขณะมาตรวจสุขภาพตามนัดของคุณหมอ ดังนั้นเมื่อใดที่ต้องไปโรงพยาบาล ก็ควรชี้ชวนให้ลูกดูนั่นดูนี่ พาไปเดินตามส่วนต่างๆ เพื่อให้ชินและไม่กลัวกับพื้นที่ นอกจากนั้นก่อนมานอนโรงพยาบาล คุณพ่อคุณแม่สามารถเล่นบทบาทสมมติเรื่องการดูแลรักษาได้ด้วย เช่น ตรวจหัวใจให้พี่หมีน้อย พาพี่หมีน้อยขึ้นเตียงเพื่อตรวจดูอาการ เป็นต้น
ช่วยลูกผ่อนคลายอารมณ์ดี
ขณะ ที่ผู้ใหญ่ใจแข็งอย่างเราเมื่อต้องนอนโรงพยาบาลก็ยังอดขวัญเสียไม่ได้ ถ้าเป็นเด็กๆ ก็เช่นเดียวกัน เพราะต้องเผชิญกับความเจ็บปวดของร่างกายและความรู้สึกไม่ปลอดภัยในขณะอยู่ แปลกที่ คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยได้ด้วยการเล่านิทานเกี่ยวกับความเจ็บป่วยหรือการนอน โรงพยาบาล ว่าเป็นสิ่งปกติที่เด็กๆ เกือบทุกคนต้องเคยเจอ และควรบอกว่า "พ่อแม่จะอยู่กับหนูจนกว่าเราจะกลับบ้านพร้อมกัน"
นอกจากนั้น ยังมีอีกหลายวิธีที่ช่วยให้เด็กผ่อนคลายได้ดี อย่างเช่น การ เดินเล่น การนวดสัมผัสในกรณีที่ลูกไม่สามารถลุกลงจากเตียงได้ หรือแม้แต่ของเล่นชิ้นโปรดก็สามารถสร้างความบันเทิงเริงใจให้กับลูกได้เช่น กัน ทั้งนี้คุณพ่อคุณแม่สามารถแบ่งเบางานของคุณพยาบาลทำได้ เพื่อคลายเครียดให้ลูกได้ เช่น การเช็ดตัว การป้อนข้าวป้อนยา เปลี่ยนผ้าอ้อม อาบน้ำ ฯลฯ
และที่สำคัญคุณพ่อ คุณแม่หรือคนดูแลต้องควบคุมสติและอารมณ์ให้มั่นคง เพราะแม้เจ้าตัวน้อยจะยังเป็นเด็กอยู่ แต่เขาก็จับกระแสความเครียดและความกังวลได้ ดังนั้นต้องระวังให้มากและใช้คำพูดเชิงบวกเกี่ยวกับการรักษา เช่น การฉีดยา อาจเปลี่ยนเป็นยาเพิ่มพลัง หรือการเจาะน้ำเกลือเปลี่ยนเป็น การเติมน้ำมันให้เครื่องยนต์สามารถทำงานต่อได้
คนดูแลพร้อม อุปกรณ์พร้อม
ด้วย พัฒนาการของเจ้าตัวน้อยที่ไม่หยุดนิ่ง ชอบเล่น และเป็นนักสำรวจสิ่งต่างๆ ดังนั้นเป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่และคนดูแลที่ต้องอยู่กับเจ้าตัวเล็กตลอด เวลา และกรณีที่เป็นเด็กเล็ก พยาบาลจะอนุญาตให้คุณพ่อคุณแม่หรือคนที่เด็กคุ้นเคยอยู่เฝ้าค้างคืนได้ และกฏง่ายๆ ของคนเฝ้าไข้ คือ ไม่ควรปล่อยทิ้งให้เด็กอยู่คนเดียว แม้ว่าเราจะต้องลงไปซื้อของ หรือไปคุยกับหมอในช่วงเวลาที่ไม่นาน เพราะนั่นอาจจะทำให้เจ้าตัวเล็กรู้สึกว่าโดนทิ้งและไม่ไว้ใจโรงพยาบาลอีกเลย ถ้ามีความจำเป็นควรแจ้งพยาบาลให้มาดูแลตอนที่คนเฝ้าไม่อยู่
ส่วน อุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเตียงนอน ต้องเป็นเตียงสำหรับเด็กเท่านั้น โดยมีชี่กรงแคบกว่าวงรอบศีรษะของเด็ก เพื่อป้องกันไม่ทำให้เด็กลอดตกลงไปได้ นอกจากของใช้ต่างๆ คุณพ่อคุณแม่สามารถเตรียมของใช้ชิ้นโปรดของลูกติดกระเป๋าไปด้วย เพราะเป็นอีกเทคนิคที่จะช่วยให้ลูกน้อยนอนหลับสบายขึ้น คือของชิ้นโปรดที่ต้องมีติดไม้ติดมือเวลานอน เมื่อต้องเข้ามานอนในโรงพยาบาลแล้ว คุณพ่อคุรแม่ยังสามารถนำอุปกรณ์เครื่องใช้ที่ลูกใช้เป็นประจำมาด้วย เช่น หมอน ผ้าห่ม ตุ๊กตา ผ้าเช็ดตัว นิทานก่อนนอนเรื่องโปรดมาด้วยระหว่างนอนโรงพยาบาลเพื่อให้ลูกอุ่นใจเหมือน อยู่ที่บ้าน
Mommy Stand by
อย่าง ไรก็ดี ด้วยความที่ยุคนี้คุณแม่เป็นผู้หญิงทำงานกันเกือบทุกบ้าน บางครั้งจึงไม่สามารถเฝ้าลูกน้อยได้ตลอดเวลา แต่ทุกปัญหามีทางออก โดยการหาตัวช่วย เช่น ให้ญาติผู้ใหญ่มาช่วยดูแลลูกแทน และบอกลูกว่าแม่จะกลับมาในช่วงเวลาในบ้าง พร้อมบอกเหตุผลด้วยว่ามแม่ถึงอยู่ดูแลลูกไม่ได้ อย่าละเลยเวลาที่จะมาหาเด็ดขาด เพราะมมันคือความมั่นคงทางจิตใจที่ลูกสมควรได้รับเป็นอย่างยิ่งในช่วงเวลา นี้ ประกอบกับการเลือกโรงพยาบาลให้ใกล้ที่ทำงาน เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คุณแม่ควรพิจารณา เพราะจะช่วยร่นระยะเวลาในการเดินทางไปได้ มิหนำซ้ำตอนกลางวันคุณแม่ยังสามารถแวบออกมาดูแลลูกได้ ทั้งนี้ต้องไม่รบกวนเวลาในการทำงานหรือขออนุญาตหัวหน้าก่อนก็จะดีไม่น้อย
เห็นไหมว่า การแอดมิดของลูกน้อยไม่ใช่เรื่องยุ่งยากและน่ากลัวเลย เพียงแค่คุณพ่อคุณแม่รู้จักวิธีการรับมือและจัดการวางแผน เท่านี้เรื่องราวต่างๆ ก็จะผ่านพ้นไปได้ด้วยดีค่ะ ^_^
ขอบคุณข้อมูลจากนิตยสาร Modernmom หน้าปก 16 คุณแม่คนดัง (16 Cover Modern Mom Come Back) ฉบับพิเศษเนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 16 ปี นิตยสาร Modernmom ประจำเดือนพฤศจิกายน 2553 ซึ่งในเล่มนี้ยังมีคอลัมน์แนะนำเคล็ดลับต่างๆ ให้กับคุณแม่ อาทิ ชวนรู้ระบบขับถ่ายของลูก น้อย, ระวังโรคลำไส้อักเสบรุนแรงในลูกเล็ก, ไขความลับ เตรีบมลูกรักเข้าป. 1, ขำขันฟันน้ำนม, 3 โรคเลือดที่แม่ท้องควรรู้ และสาระความรู้ที่น่าสนใจอีกมากมายที่เป็นคู่มือในการเลี้ยงดูลูกของเหล่า บรรดาคุณแม่ค่ะ
บทความจาก ASTVผู้จัดการออนไลน์/life & family ฉบับวันที่ 22 พฤศจิกายน 2553
|
|
|
สินค้าสำหรับเด็ก
|
สาระและความรู้
|
เกี่ยวกับเรา
|
ติดต่อเรา
-
บริษัท อะธีน่า เมทีส จำกัด
-
บริษัท เอ เอ็ม ซี (ไทยแลนด์) จำกัด
-
50/41 หมู่ 13 ถนนพุทธมณฑลสาย 5
-
ไร่ขิง สามพราน
-
นครปฐม 73210
-
Tel: +66 (0)2 019 9887
-
Fax: +66 (0)2 019 9878
-
E-mail: info@happybabito.com
|
|
|
HappyBabito Copyright 2010 Athena Metis Co., Ltd. All Rights Reserved. Babito is a trademark owned by Athena Metis Co., Ltd. |
|
|